การจัดฟันดามอน เป็นนวัตกรรมทางทันตกรรม ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ลดระยะเวลาจัดฟันให้เร็วขึ้น ตอบโจทย์คนไข้ทั้งในแง่ความสะดวกสบายมากขึ้น เจ็บน้อยกว่าการจัดฟันปกติ ไม่ต้องพบทันตแพทย์ทุกเดือน
สรุปรายละเอียด การจัดฟันดามอน
จัดฟันดามอน คือ
การจัดฟันดามอน (Damon System) เป็นรูปแบบการจัดฟันที่ถูกเรียกชื่อตาม Bracket หรือวัสดุยึดติดกับฟันชนิด Damon™ System ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของการจัดฟัน แบบไม่ต้องใช้ยางรัด โดยระบบของการจัดฟันดามอนจะเป็นการผสมผสานระหว่าง Self-Ligating brackets และ Hi-tech arch wires ที่เป็นเครื่องมือสมัยใหม่ ออกแบบให้ช่วยเคลื่อนฟันได้เร็วขึ้น และด้วยลักษณะความเรียบลื่นของวัสดุ จึงมีจุดเด่นตรงที่ช่วยให้คนไข้สบายขึ้น เพราะรู้สึกระคายเคือง และเจ็บน้อยลง ทั้งยังมีความแข็งแรงยืดหยุ่นด้วย
จัดฟันดามอนมีกี่แบบ
การจัดฟันดามอน แบ่งออกเป็น 2 แบบตามลักษณะของ Bracket ที่ต่างกัน
จัดฟันดามอนคิว (Damon Q)
ที่เครื่องมือจัดฟันหรือ Bracket จะเป็นสีโลหะ ทำให้เมื่อติดเครื่องมือจัดฟันชนิดนี้ เวลายิ้ม พูดคุย แบบที่เห็นฟันจะเห็นเครื่องมือจัดฟันชัดเจน
จัดฟันดามอนเคลียร์ (Damon Clear)
ที่เครื่องมือจัดฟันจะมีสีขาวขุ่น หรือสีใส ใกล้เคียงกับสีฟัน ทำให้เมื่อติดลงบนฟันจะมองเห็นเครื่องมือไม่ชัดเจน ทำให้ดูมีบุคลิกภาพที่ดี ดูเผิน ๆ เหมือนไม่ได้จัดฟัน
จัดฟันดามอน ข้อดี
- ฟันเคลื่อนที่เข้ารูปเรียงตัวได้รวดเร็ว โดยได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าสามารถช่วยย่นระยะเวลาการรักษาให้สั้นลง เห็นผลไว้ขึ้น
- ไม่จำเป็นต้องมาพบทันตแพทย์บ่อย ๆ จึงเป็นการจัดฟันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะแทนที่จะต้องมาพบทันตแพทย์ทุกสัปดาห์ ก็จะลดเหลือเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้ง
- คนไข้จะรู้สึกสบาย เพราะเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบปกติ เพราะการจัดฟันดามอนเป็นการเคลื่อนฟันโดยใช้แรงเบา นุ่มนวล เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบทั่วไป จึงทำให้รู้สึกสบายมากกว่า
- ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีมาก เนื่องจากเป็นวิธีการจัดฟันที่มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนฟันอย่างมาก และมีความปลอดภัยสูง
- ให้โครงหน้าที่สวยงาม รอยยิ้มที่สดใส เพราะไม่มีการปรับและดึงโครงหน้าจนเกินไป
- มักไม่จำเป็นต้องถอนฟัน เพราะทันตแพทย์สามารถใช้วิธีขยายพื้นที่การเรียงตัวของฟันออกไปได้ ทำให้อาจไม่ต้องถอนฟันเพื่อหาช่องว่าง
- ลดโอกาสการเกิดฟันผุ กลิ่นปาก และโรคเหงือกอักเสบ เนื่องจากสามารถรักษาความสะอาดได้ง่าย
จัดฟันดามอน ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ต้องทำการจัดฟันโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากเครื่องมือมีความซับซ้อน
- คนไข้ต้องทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันตามคำแนะนำของทันตแพทย์อยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดหินปูนได้ง่าย
ใครที่เหมาะกับการจัดฟันดามอน
- คนที่อยากจัดฟันแต่ไม่ต้องการเจ็บปวดระคายเคืองจากเครื่องมือจัดฟันแบบเดิม ๆ
- คนที่ไม่มีเวลาไปพบทันตแพทย์บ่อย ๆ
- คนที่ไม่ต้องการถอดฟัน
- คนที่มีกำลังทรัพย์พอสมควร
สิ่งที่ควรรู้ก่อนจัดฟันดามอน
- มีค่าใช้จ่ายสูงมากกว่าแบบปกติเกือบเท่าตัว เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงและลิขสิทธิ์ของเครื่องมือชนิดนี้ที่เป็นของ Damon™ System ผู้ผลิตแต่เพียงเจ้าเดียว
- ต้องทำโดยทันตแพทย์ที่มีความชำนาญ การจัดฟันแบบ Damon™ System ทันตแพทย์จะต้องเป็นผู้มีความรู้และความชำนาญ เนื่องจากการจัดฟันแบบนี้มีความซับซ้อนของเครื่องมือและมีวิธีการรักษาที่ค่อนข้างจะยุ่งยาก (แม้ผู้ใช้จะรู้สึกสบาย) ซึ่งต่างจากการจัดฟันในรูปแบบเดิม
- ไม่ได้ใส่ยางจัดฟัน สำหรับหลาย ๆ คนแล้วอาจคิดว่านี้เป็นข้อดี แต่ยังมีบางคนที่อาจตื่นเต้นกับการจัดฟันครั้งแรกที่จะได้เลือกสียางได้ตามใจชอบ เพราะการจัดฟันด้วยวิธีนี้ จะไม่ได้ใช้ยางที่มีสีสันเหล่านั้น เนื่องจากข้อเสียของยางถูกจำกัดไป โดยบานเปิดปิดของแบร็คเก็ต Damon™ System นี้
- ผู้ใช้ต้องมีวินัยอย่างมาก ตั้งแต่การทำความสะอาด เนื่องจากความซับซ้อนของเครื่องมือที่เป็นบานปิดเปิด จึงทำให้ไวต่อการเกิดหินปูน หากผู้ใช้ไม่รักษาความสะอาดให้ดีพอ และระบบนี้ยังมีการใช้ยาง Elastic ค่อนข้างบ่อย เพื่อลดการถอนฟัน ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนยางทุกวันและใส่ยางบ่อย ๆ เพราะหากไม่ใส่จะไม่ได้ผลในการรักษาที่ดี
ขั้นตอนจัดฟันดามอน
ในเบื้องตันการจัดฟันดามอนก็เหมือนกับการจัดฟันแบบอื่น ๆ ตรงที่คนไข้ต้องปรึกษากับท้นตแพทย์ก่อนล่วงหน้า เพื่อวางแผนการรักษา รวมถึงตรวจสภาพช่องปาก และฟันโดยละเอียด เพื่อให้สามารถทำการรักษาได้อย่างเหมาะสม
- ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาจะ X-ray ช่องปาก ฟันโดยละเอียด เพื่อวิเคราะห์ ตรวจและประเมินสภาพช่องปาก
- วางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้
- พิมพ์ปากเพื่อเตรียมอุปกรณ์การจัดฟัน
- ทันตแพทย์จะทำการติดเครื่องมือจัดฟันตามแผนการรักษาที่วางไว้
- คนไข้กลับมาตรวจสภาพฟัน และปรับเครื่องมือจัดฟันทุก ๆ 6-8 สัปดาห์
- ใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) หลังจากคนไข้ได้รับการถอดเครื่องมือจัดฟันเพื่อป้องกันฟันล้ม หรือการเกของฟัน
ระยะเวลาในการจัดฟันดามอน
ดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน หากคนไข้มีฟันซ้อนหรือฟันเกมากก็อาจจะใช้เวลามากขึ้น
จัดฟันดามอน ราคา
รายการ | ราคา (บาท) |
จัดฟันแบบดามอน | 85,000 |
ข้อควรระวังหลังจัดฟันดามอน
- ควรหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีความแข็งและเหนียวเคี้ยวยาก
- ไม่ควรเคี้ยวหรือกัดของแข็ง เพื่อป้องกันการหลุดของวัสดุจัดฟัน
- ดูแลรักษาสุขภาพปากและฟันตามคำแนะนำอย่างทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
ดูเเลสุขภาพฟันหลังจากจัดฟันดามอนอย่างไร
- ดูแลรักษาความสะอาด ด้วยการแปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
- ใช้ไหมขัดฟัน ร่วมกับน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันฟันผุ
- พบทันตแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อตรวจเช็กสุขภาพปากและฟัน รวมถึงเครื่องมือจัดฟันให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
คำถามที่ถูกถามบ่อยๆสำหรับการจัดฟัน ดามอน
ขั้นตอนการรักษา ใช้หลักการการจัดฟันโดยอาศัยแรงยึดดึงทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปตำแหน่ง ที่กำหนดโดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดทิศทางการจัดฟัน นอกจากนี้ผู้ป่วยไม่สามารถถอดเครื่องมือเองได้ ดังนั้นจึงต้องมาพบแพทย์เป็นประจำ ตามกำหนดเพื่อทำการเปลี่ยนเครื่องมือ
ระยะเวลาสำหรับการจัดฟันดามอน ใช้เวลาน้อยกว่าการจัดฟันแบบทั่วไปประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งการจัดฟันแบบทั่วไปจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2ปีขึ้นไป ในการรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาทางด้านสุขภาพฟัน และโครงสร้างฟันของแต่ละคน ดังนั้นระยะเวลาจึงอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้กำหนดและดูแลเรื่องนี้
เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะมาพบคุณหมอเพราะ การจัดฟันประเภทนี้ร่นระยะเวลาในการจัดฟันได้ดีมากๆอีกด้วย โดยจะเป็นการเข้ามาพบคุณหมอทุกสองเดือน ใช้เวลาในการจัดน้อยกว่า แบบโลหะติดแน่น ประมาณ 6-8 เดือน
ข้อมูล คลินิก
care dental clinic
Secondary phone: +66-2211-8903
Email: support@caredental.clinic
URL: https://www.caredental.clinic/
Price indication: $$$
Monday | 10:00 - 20:00 |
Tuesday | 10:00 - 20:00 |
Wednesday | 10:00 - 20:00 |
Thursday | 10:00 - 20:00 |
Friday | 10:00 - 20:00 |
Saturday | 10:00 - 20:00 |
Sunday | Closed |
ทพญ. อรวดี เกียรติเวชสุนทร
ทันตแพทย์ผู้ก่อตั้ง Care Dental Clinic ผ่านประสบการณ์การเปิดคลินิกมาทั้งสิ้น 5 สาขา และมีประสบการณ์มามากกว่า 35 ปี คุณหมอนับว่าเป็นตระกูลทันตแพทย์ เพราะมี คุณปู่ คุณพ่อ ตัวคุณหมอเอง และ ลูกชายเป็นทันตแพทย์ ติดกัน 4 รุ่น แล้ว จึงทำให้เรื่องของทันตกรรม อยู่ในสายเลือดของคุณหมอ