ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว เป็นที่รู้จักมากที่สุดประเภทหนึ่งของการทำฟันเพื่อความสวยงาม การฟอกสีฟันทำให้ฟันขาว รอยยิ้มอย่างมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
การฟอกสีฟันนอกจากการฟอกสีฟันที่คลินิกแล้ว การสามารถฟอกสีฟันที่บ้าน ด้วยเครื่องมือพิมพ์แบบฟัน เพื่อคงประสิทธิภาพในการดูแลฟันให้ฟันขาวสวยได้ ในราคาที่ไม่แพง แต่ความสำคัญของการฟอกสีฟัน นอกจากจะต้องมีทันตแพทย์เป็นผู้ฟอกสีฟันให้แล้ว ยังมีรายละเอียดที่จะอธิบายให้เข้าใจ ว่ามีขั้นตอนอย่างไร และคุณควรฟอกสีฟันแบบไหนดี
- 1. ฟอกฟันขาว คือ อะไร
- 2. ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ระบบ Cool Light LED
- 3. ทำไมถึงต้องฟอกสีฟัน
- 4. ฟอกสีฟัน ทำให้ฟันขาวได้อย่างไร
- 5. ฟอกฟันขาวมีกี่แบบ
- 6. ขั้นตอนการฟอกฟันขาว โดยทันตแพทย์
- 7. ฟอกฟันขาว ข้อดี
- 8. ฟอกฟันขาว ข้อเสีย
- 9. ฟอกสีฟันมีข้อจำกัดหรือไม่
- 10. ใครที่ไม่เหมาะกับการฟอกสีฟัน
- 11. ตรวจเช็คสภาพฟันก่อนมาฟอกสีฟัน
- 12. ฟอกฟันขาว ที่ไหนดี
- 13. ฟอกสีฟันยังไงให้ปลอดภัย
- 14. รีวิวฟอกฟันขาว
- 15. สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฟอกสีฟันเสร็จ
- 16. วิธีการดูแลฟันหลังฟอกสีฟัน
- 17. ฟอกสีฟัน ราคา
- 18. คำถามที่พบบ่อยๆกับการฟอกสีฟัน
ฟอกฟันขาว คือ อะไร
ฟอกฟันขาว คือ กระบวนการที่ช่วยเพิ่มความขาวให้กับฟัน ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะทำที่คลินิกโดยทันตแพทย์ ด้วยระบบ Cool Light LED หรือถ้าการฟอกสีฟันที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อฟื้นฟูฟันเหลืองจาก คราบชา กาแฟ หรือ บุหรี่ ให้ฟันขาว ช่วยให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มที่สดใสมากกว่าเดิม
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ระบบ Cool Light LED
ฟอกฟันขาว Cool Light คือ นวัตกรรมทางทันตกรรมที่ช่วยในการรักษาที่ช่วยให้ฟันมีสีขาวขึ้น โดยกระบวนการฟอกสีฟันจะใช้น้ำยาฟอกสีฟันและกระตุ้นการแตกตัวของน้ำยาฟอกสีฟันด้วยระบบแสง LED
ทำไมถึงต้องฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟัน การฟอกฟันขาว เพื่อกำจัดคราบผิวฟัน ที่เกิดจากไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหาร อย่างการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์ สูบบุหรี่ หรือการสะสมของคราบแบคทีเรียและหินปูน ทำให้ผิวฟันเหลือง ฟันมีคราบดูหม่นหมอง ให้กลับมาขาวสะอาด สดใส ดูมีสุขภาพดี และที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ การฟอกสีฟันยังช่วยขจัดคราบหินปูนให้หมดจดได้ด้วย
ในทางการแพทย์ เราแบ่งสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลืองเป็น 2 ข้อหลัก คือ
1. ฟันเหลืองจากภายนอกตัวฟัน เช่น จากสีของอาหารที่เรารับประทาน, เครื่องดื่ม, บุหรี่ เป็นต้น
2. ฟันเหลืองจากภายในตัวฟัน เช่น การสะสมสารเคมีที่มีสีข้างในเนื้อฟันขณะสร้างฟัน หรือในกรณีฟันตาย เป็นต้น
จากสาเหตุที่ยกตัวอย่างมา คงจะเห็นว่าหลายอย่างก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
การฟอกฟันขาว หรือการฟอกสีฟันจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีของหลาย ๆ คนที่อยากมีฟันขาวสวย แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่นึกอยากจะฟอกฟันขาวก็ทำได้เลย อย่างแรกที่หมอแนะนำคือ ศึกษาหาข้อมูลเสียก่อน หรือพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วขอคำปรึกษา เพื่อความปลอดภัย และให้ได้ฟันขาวอย่างมีสุขภาพดี
ฟอกสีฟัน ทำให้ฟันขาวได้อย่างไร
การฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะใช้วิธีฟอกฟันขาวจากภายในตัวฟันเอง (Internal Tooth Bleaching) หรือจะฟอกฟันขาวจากภายนอกตัวฟัน (External Tooth Bleaching) จะใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) มาช่วยด้วยเสมอ
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์จะปฏิกิริยากับออกซิเจน เมื่อสัมผัวกับผิวฟัน ทำให้สารที่มีสีในตัวฟันเกิดการแตกตัว จนมีขนาดเล็กลง แล้วแทรกซึมผ่านเนื้อฟันออกมา ทำให้ฟันมีสีขาวขึ้นมาได้ คุณหมอจะใช้แสง Cool Light LED เพื่อเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้ผิวฟันขาวขึ้น ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ฟอกฟันขาวมีกี่แบบ
ประเภทการฟอกสีฟัน ได้เป็น 2 แบบ
- ฟอกสีฟันที่คลินิก ที่ทำโดยทันตแพทย์ (Tooth Whitening)
- ฟอกสีฟันที่บ้าน แบบนำอุปกรณ์และน้ำยาไปทำเองที่บ้าน (Home Bleaching)
การฟอกฟันขาวมีอยู่หลายแบบ ซึ่งการเลือกวิธีของการฟอกสีฟันขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งหลัก ๆ แล้วที่นิยมกัน
โดยทั้งสองแบบประสิทธิภาพในการฟอกสีฟันก็จะแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ วิธีนี้สามารถทำและเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง โดยผู้เข้ารับบริการสามารถเห็นความแตกต่างได้หลังการรักษา ในขณะที่การฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน จำเป็นต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อนที่จะสามารถเห็นความแตกต่างก่อนและหลังทำอย่างชัดเจน
ขั้นตอนการฟอกฟันขาว โดยทันตแพทย์
- ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปาก และดูประวัติคนไข้โดยละเอียด จากนั้นจะทำการเทียบเฉดสีของฟันก่อนรับฟอกสีฟัน
- ผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจจำเป็นต้องได้รับการขูดหินปูน ขัดฟัน หรืออุดฟันก่อนได้รับการฟอกสีฟัน
- ทันตแพทย์จะทาน้ำยาเพื่อปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟันที่จะทำการฟอกสีฟัน รวมทั้งให้ผู้เข้ารับการบริการสวมแว่นตาพิเศษเพื่อป้องกันสายตาขณะทำการฟอกฟันขาว
- หลังจากฟันได้รับการเป่าแห้งแล้ว ทันตแพทย์จะทำการป้ายน้ำยาฟอกสีฟันลงบนฟัน
- ใช้ไฟ Cool light เพื่อกระตุ้นการทำงานของน้ำยาฟอกสีฟัน เนื่องจากแสง LED จะช่วยกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ทันตแพทย์จะกำจัดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก และทำการเปรียบเทียบสีก่อนและหลังการฟอกสีฟันเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสามารถเห็นความแตกต่าง
ฟอกฟันขาว ข้อดี
- แก้ไขปัญหาฟันที่มีสีคล้ำ สีน้ำตาล สีเหลือง และมีคราบต่างๆบนฟัน ให้มีความขาวมากขึ้น
- สามารถทำได้ในบุคคลทั่วไป
- สามารถปรับปรุงรอยยิ้มให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจ และช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
ฟอกฟันขาว ข้อเสีย
- อาจเกิดผลข้างเคียงจากการฟอกฟันขาว เช่น เสียวฟัน การระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อน แต่ก็จะกลับสู่สภาพปกติได้เอง ภายใน 1-3 วันเมื่อไม่ได้สัมผัสกับสารฟอกสีฟัน หรือเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาแล้ว
- อาจทำให้สีของอาหารติดฟันง่ายในช่วงวันสองวันแรกของการฟอกฟันขาว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสุภาพของฟันของแต่ละบุคคล
ฟอกสีฟันมีข้อจำกัดหรือไม่
ข้อจำกัดสำหรับการฟอกสีฟันนั้นมีอยู่บ้างเหมือนกัน เช่น การฟอกฟันขาวจะได้ผลลัพธ์ที่ดี่สุดกับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลือง ส่วนคนที่มีฟันสีน้ำตาลจะค่อนข้างได้ผลน้อย หรืออาจจะไม่ได้ผลเลยสำหรับคนที่ฟันสีเทา หรือออกม่วง รวมถึงฟันตกกระที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาประเภทเตตร้าไซคลีน (เตตร้าไซคลีนเป็นยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะ ใช้เพื่อรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย)
ระดับความขาวของฟันจากการรักษาก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของคนไข้ และความขาวจะอยู่ยาวนานแค่ไหน ก็อยู่ที่การดูแลรักษาหลังการฟอกสีฟันด้วยเช่นกัน
และเมื่อฟอกฟันขาวแล้ว สีที่เปลี่ยนจะเป็นสีของฟันธรรมชาติเท่านั้น ดังนั้นวัสดุอื่น ๆ เช่น วัสดุอุดฟัน ฟันปลอม หรือครอบฟันสีจะไม่เปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้บางครั้งอาจต้องเปลี่ยนครอบฟัน ฟันปลอม หลังจากฟอกสีฟันเรียบร้อยแล้ว
ใครที่ไม่เหมาะกับการฟอกสีฟัน
ทันตแพทย์ยังไม่แนะนำให้ผู้ที่อยู่ในภาวะต่อไปนี้ทำการฟอกสีฟัน
- อายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะโพรงประสาทหรือเส้นประสาทในฟันยังมีการเจริญเติบโตอยู่ การฟอกสีฟันจะทำให้เกิดความระคายเคือง หรือมีอาการเสียวที่โพรงฟันได้
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพฟัน ควรได้รับการรักษาให้เรียบร้อยเสียก่อน เช่น ปัญหาฟันผุ โรคเหงือก โพรงฟันเป็นหลุม หรือมีรากฟันโผล่ออกมา เพราะสารฟอกฟันขาวจะแทรกซึมไปส่วนฟันที่ผุ และพื้นที่ด้านในของฟัน ทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้
ตรวจเช็คสภาพฟันก่อนมาฟอกสีฟัน
มีการบูรณะฟันหน้าด้วยวัสดุต่างๆ | กรณีที่มีการบูรณะฟันหน้าด้วยวัสดุเรซิน เซรามิก หรือได้รับการทำครอบฟัน สะพานฟันและเคลือบผิวฟันแล้วนั้น การฟอกสีฟันจะไม่สามารถเปลี่ยนสีของวัสดุดังกล่าวได้ ดังนั้นหลังการฟอกสีฟัน ผู้เข้ารับบริการอาจต้องเข้ารับการเปลี่ยนวัสดุดังกล่าวให้มีสีเหมือนฟันที่ขาวขึ้น |
ฟันที่บอบบางเกิดอาการเสียวฟันได้ง่าย หรือมีอาการแพ้สารเพอร์ออกไซด์ | สำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟันได้ง่ายอยู่ก่อนแล้วซึ่งอาจเกิดจากปัญหาเหงือกร่น ฟันสึก หรือเกิดจากการรั่วของวัสดุที่อุดฟัน เป็นต้น ควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง รวมถึงผู้ที่มีอาการแพ้สารประเภท ไฮโดตเจนเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการฟอกสีฟัน อาการเสียวฟันที่เกิดจากการฟอกสีฟันนั้น เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้เข้ารับบริการบางท่าน ซึ่งอาการดังกล่าวจะลดลงและสามารถหายได้เองภายใน 1 – 4 วัน |
ฟันตกกระหรือมีสีเทาที่เป็นผลข้างเคียงจากยาประเภทเตตร้าไซคลีน | สำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหาฟันตกกระหรือมีสีเทาอันเกิดจากการได้รับยาปฏิชีวนะประเภทเตตร้าไซคลีน หรือด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม การฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์อาจช่วยปรับระดับสีฟันได้เพียงระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาฟันสีเทาให้ขาวตามธรรมชาติได้ |
คอฟันมีสีเหลืองหรือน้ำตาล | การฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เนื่องจากทันตแพทย์จำเป็นต้องทำการป้องกันการโดนน้ำยาฟอกสีฟันบริเวณคอฟันและเหงือกด้วยน้ำยาพิเศษ |
สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร | ไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์หรือสตรีที่ให้น้ำนมบุตรเข้ารับการฟอกสีฟัน แม้จะยังไม่มีรายงานเรื่องผลข้างเคียง |
ฟันมีความใส | ฟันที่มีความอาจมีลักษณะขุ่นทึบจากปกติ ในช่วงระยะแรกๆที่ได้รับการฟอกสีฟัน |
ข้อต่อขากรรไกรมีปัญหา | สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านขากรรไกร ทันตแพทย์อาจทำการฟอกสีฟันด้านบน หรือ ล่างก่อน แล้วจึงฟอกด้านที่เหลือหลังจากการหยุดพัก เพื่อความสะดวกสบายของผู้เข้ารับบริการ |
โรคเหงือกและฟันผุ | ผู้ที่มีปัญหาโรคเหงือกหรือมีฟันผุ อาจต้องเข้ารับการรักษาโรคดังกล่าวก่อนเข้ารับการฟอกสีฟัน |
ความคาดหวังจากการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ | ไม่มีการรับประกันผลลัพธ์ที่ได้จากการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสีฟันขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลที่มีปฏิกิริยาต่อน้ำยาฟอกสีฟันที่แตกต่างกัน ซึ่งบางรายอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่น้อยมาก |
การฟอกสีฟันไม่สามารถแก้ไขปัญหาสีฟันที่ผิดปกติบางประเภทเช่น ฟันตกกระที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาประเภทเตตร้าไซคลีน และระดับของการเปลี่ยนของสีฟันจากการฟอกสีฟัน นั้นจะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของแต่ละคนที่มีกับน้ำยาฟอกสีฟัน
ฟอกฟันขาว ที่ไหนดี
การเลือกว่าจะฟอกฟันขาวที่ไหนดีนั้น ก็อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่อยากให้ผู้ที่ต้องการฟอกฟันขาวเห็นความสำคัญก็คือ ความเชี่ยวชาญและความชำนาญของทันตแพทย์ รวมถึงความน่าเชื่อถือของคลินิกทันตกรรม ความสะอาด ปลอดภัย และอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ผู้รับบริการได้รับความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์จากการฟอกสีฟันอย่างที่ต้องการ
ฟอกสีฟันที่บ้าน มีข้อดีคือ
- สามารถทำได้เองที่บ้าน
- มีผลข้างเคียงน้อย มีความปลอดภัย
- มีโอกาสเกิดอาการเสียวฟันจากการฟอกสีฟันน้อย
ฟอกสีฟันที่คลินิก มีข้อดีคือ
- รวดเร็วและสามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังเข้ารับบริการ โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
- แสงเลเซอร์ที่ช่วยให้การทำงานสำเร็จภายในเวลาที่น้อยลงและยังลดปัญหาการเสียวฟันหลังการทำ
- มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงมากกว่า เนื่องจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่มี Hydrogen Peroxide ตั้งแต่ 3.6-35% ต้องใช้โดยการควบคุมของแพทย์เท่านั้น ทำให้สารฟอกสีฟันในคลินิกมีความเข้มข้นกว่า
- สะดวกสบาย เนื่องจากไม่ต้องใส่ถาดฟอกสีฟันตอนนอน
อ่านเพิ่มเติม การฟอกสีฟันที่บ้านมีขั้นตอนอย่างไร
ฟอกสีฟันยังไงให้ปลอดภัย
การฟอกสีฟันควรทำกับทันตแพทย์ ไม่แนะนำให้คนไข้หาซื้อชุดอุปกรณ์ฟอกสีฟันที่มีตามท้องตลาด เพราะ ถาดฟอกสีฟันจะมีขนาดกลางๆ ซึ่งไม่ได้พอดีกับรูปแบบฟันและช่องปาก นอกจากนั้นน้ำยาฟอกสีฟันความเข้มข้นไม่เหมาะสม ถ้าใส่ความเข้มข้นมากเกินไปอาจเกิดการระคายเคือง อักเสบ การเสียวฟัน ความเสียหายของประสาทฟันตามาได้ วิธีที่ดีที่สุดคือควรให้ทันตแพทย์พิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟันที่มีขนาดพอเหมาะ พร้อมให้คุณหมอทำน้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นที่พอเหมาะ
รีวิวฟอกฟันขาว
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฟอกสีฟันเสร็จ
- ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดคราบสีบนฟันเช่น การดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง รวมถึงการงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม แนะนำให้ใช้หลอดแทน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดสูง เช่น อาหารรสเปรี้ยว อาหารรสจัด
- หากมีอาการเสียวฟัน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็นจัด
วิธีการดูแลฟันหลังฟอกสีฟัน
การดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยรักษาความขาวให้อยู่ได้นานมากขึ้น
- ทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การแปรงฟันหลังรับประทานอาหารเป็นการเริ่มวินัยที่ดีในการดูแลสุขภาพปากและฟันซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
- ทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง
- บ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
- หมั่นพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
ฟอกสีฟัน ราคา
ประเภทการ ฟอกสีฟัน | ราคา (บาท) |
ฟอกสีฟัน ที่คลีนิก | 12,000 |
ฟอกสีฟัน ที่บ้าน Home bleaching full set ราคา (ต่อชุด) | 4,500 |
ฟอกสีฟัน ที่บ้าน แบบหลอด ราคา | 1,500 |
ฟอกสีฟัน ชุดพิมพ์แบบฟัน ราคา (ต่อชิ้น) | 1,500 |
คำถามที่พบบ่อยๆกับการฟอกสีฟัน
ฟอกสีฟัน ที่คลินิก โดยท้นตแพทย์ ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 45 – 60 นาที
สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น Ponstan ที่ช่วยลดอาการเสียวฟันได้
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อน เย็นหรือมีความเป็นกรดสูงเกินไป
ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพรแทสเซียมไนเตรต ช่วยลดอาการเสียวฟัน บรรเทาอาการเจ็บปวดของปลายเส้นประสาท
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ช่วยลดอาการเสียวฟัน สามารถสอบถามจากทันตแพทย์ที่ให้การรักษาได้
กรณีที่เกิดจากการฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้าน ควรลดเวลาในการใส่ถาดฟอกสีฟันลง หรือ ทิ้งช่วงห่างระหว่างการฟอกสีฟันแต่ละครั้งให้มากขึ้น (เช่น หากปกติใส่ถาดฟอกสีฟันครั้งละ 6 ชั่วโมง ก็ควรลดลงให้เหลือเพียง 5 ชั่วโมง หรือในบางกรณีที่ทำทุกวัน ก็ให้ทำวันเว้นวัน เป็นต้น)
การฟอกฟันขาวทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ แต่ระดับของความขาวจะขึ้นอยู่กับสภาพเยื่อฟันของแต่ละบุคคล
การฟอกสีฟันแม้ว่าจะทำได้ทั้งด้วยตัวเองที่บ้าน และที่คลินิก แต่ก็ต้องยอมรับว่าการฟอกสีฟันที่คลินิกจะมีประสิทธิภาพดีกว่า จากเครื่องมือที่ใช้ และสารฟอกสีฟันที่ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ที่สำคัญยังปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพของช่องปากมากกกว่าการซื้อชุดอุปกรณ์ฟอกสีฟันที่มีขายตามท้องตลาดมาฟอกเองที่บ้าน
ยาสีฟัน ฟอกฟันขาว ควรเป็นยาสีฟันที่มีฤทธิ์ไม่รุนแรง แต่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่ช่วยขจัดคราบอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนผสมของสารฟอกสีฟัน อย่าง คาร์บาไมด์เพอร์ออกไซด์ หรือไฮโรเจนเพอร์ออกไซด์ ที่ช่วยให้ฟันขาวสดใสขึ้นได้
ผู้ที่จัดฟันสามารถฟอกสีฟันได้ค่ะ แต่จะต้องรอให้หน้าฟันที่ถูกเจียรออกตอนจัดฟันคืนสู่สภาพเดิมก่อน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ฟอกฟันขาวก่อนจัดฟันจะดีที่สุด